เกาะหลีเป๊ะ เกาะอาดัง 

สองเกาะที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล เป็นเกาะที่อยู่ติดเขต ประเทศมาเลเซีย  *แนะนำการเดินทางนี้เขียนหลังสถานการณ์ Covid 19 ซึ่งการเดินทางหรือการเข้าพัก อาจมีการปรับเปลี่ยน  ส่วนการแนะนำการวางแผนมาเที่ยวให้คุ้มเวลา ต้องพยายามเตรียมแผนมาให้ดี

 

เกาะหลีเป๊ะ สามารถมาเที่ยวได้ตลอดปี ช่วงเวลาที่ดีคือ ปลายตุลาคม ถึง ต้นพฤษภาคม (สามารถดำน้ำโซนเกาะราวี ได้) ส่วนช่วงมรสุม พฤษภาคม ถึง ตุลาคม การเดินทาง หรือการเล่นชายหาดอาจไม่ได้ราบรื่น เพราะคลื่นลมแรง (สามารถดำน้ำที่โซนเกาะอาดัง ตะวันออก)

เกาะอาดัง สามารถเดินทางมาเที่ยวเล่นบนเกาะ และบนเกาะมีที่พัก 2 ที่คือ ของอุทยานเอง และของเอกชนที่เช่าพื้นที่จากรัฐ คือ Adang Island Resort รีสอร์ทที่มีความเป็นส่วนตัว รวมถึงไฟฟ้าที่ใช้ได้ทั้งวัน ใครพักที่นี่ก็สามารถไปดำน้ำโซนเกาะราวีได้เช่นกัน ที่พักเปิดบริการ 1 พฤศจิกายน ถึง 15 พฤษภาคม

ทั้ง 2 เกาะมีความแตกต่างในการใช้ชีวิตอยู่พอควร หลีเป๊ะจะอารมณ์ สะดวก หากินง่าย ไปดูได้หลายที่ ส่วนเกาะอาดัง(ขอเน้นไปที่ Adang Island Resort ) ความสงบ ใช้ชีวิตช้าๆ ดำน้ำ พายเรือ เล่นน้ำหน้าหาด   การเดินทางมาที่เกาะอาดังนี้ จะมีเรือไปรับจากเกาะหลีเป๊ะ มาสู่ที่พัก 

รอบเรือเกาะหลีเป๊ะ (อาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดเช็คอีกครั้ง)

ท่าเรือปากบารา > เกาะหลีเป๊ะ : 09.30,11.30.13.30,15.30 น.
เกาะหลีเป๊ะ > ท่าเรือปากบารา : 09.30,11.30.13.30,16.00 น.

การเดินทาง มาเกาะหลีเป๊ะ เกาะอาดัง

โปรดเข้าใจว่าหลัง Covid 19 รถ เรือ เครื่องบิน รถไฟ อาจมีการยกเลิก หรือเปลี่ยนเวลาการเดินทาง กรุณาเช้คให้รอบคอบอีกครั้ง ง่ายที่สุดคือให้ผู้รับจอง วางแผนเวลาเดินทางให้ เพท่อใช้เวลาให้คุ้ม > จองผ่าน ทัวร์เกาะ.com

รถส่วนตัว : นำรถมาจอดที่ท่าเรือปากบาราได้ มีที่รับฝากรถหลายเจ้าให้บริการรับฝาก

รถทัวร์ : ถ้าจากกรุงเทพ มีรถทัวร์สาย กรุงเทพ-ละงู ( 15 ชั่วโมง) ลงเเล้วต่อสองแถวมาท่าเรือปากบาราได้

รถตู้ : แบบสาธารณะเดินทางจากหาดใหญ่ – ท่าเรือปากบารา หรือ แบบจองผ่านทัวร์ รถจะรับที่โรงแรม หรือสนามบิน ซึ่งสะดวกมากๆ (สอบถามแผนการบินมา เพื่อปรับเวลาให้เข้ากับรถตู้ของทัวร์) ปกติส่วนใหญ่เลือกบินลงก่อน 08.00 น.ที่หาดใหญ่ และบินกลับหลังสองทุ่ม

เครื่องบิน : จริงๆเเล้วสามารถลงทั้งหาดใหญ่ หรือตรังก้ได้ แต่แนะที่หาดใหญ่ เพราะเที่ยวบินมีมากกว่า แนะนำลงหาดใหญ่ก่อน 08.00 น. และบินกลับหลังสองทุ่ม หากอยากมีเวลามาชอปปิ้งที่หาดใหญ่ก่อนบินกลับ

รถไฟ : ลงสถานีกันตัง (ตรัง) หรือ หาดใหญ่ เเล้วต่อรถตู้มาที่ท่าเรือปากบาราได้

เรือ : มีเดินทางจาก ภูเก็ต , เกาะพีพี , กระบี่ ,ตรัง , ท่าเรือปากบารา

สำหรับวิธีที่ง่ายสุดคือ วางแผนก่อนว่ามีเวลากี่วัน (ไม่เเนะนำ 2 วัน 1 คืน เสียเวลาเดินทางที่สุด) ที่แนะนำคือ 3 วัน 2 คืน เป็นต้นไป (เดินทางมา 1 วัน,ดำน้ำ 1 วัน,กลับ 1 วัน)  เมื่อจัดเวลาเเล้ว ควรสอบถาม > จองผ่าน ทัวร์เกาะ.com นำไฟล์ทบินเเละเวลา มาวางแผนให้คุ้มค่า

หมู่เกาะห้า หมู่เกาะหินปูน สูงเด่น รวมตัวกันอยู่ไม่ห่างกัน ทั้ง 5 เกาะ เกาะที่เป็นจุดเด่นสุดจะมีชายหาดขาว สามารถขึ้นเล่นได้ในช่วงน้ำลง หน้าชายหาดมีปะการังน้ำตื้น เเละฝูงปลาทะเลหลากหลายให้ได้ชม

 

 

แต่ก่อนที่หมู่เกาะห้านี้ จะมีแต่กลุ่มดำน้ำลึกเท่านั้นที่แวะเวียนมา จน 4 ปีหลังนี่เอง หลังจากผมค้นพบว่าเป็นหนึ่งจุดเเวะ ที่ควรจะเเวะ จึงได้แนะนำทัวร์ที่เกาะลันตา ให้ทำโปรแกรมเกาะรอก + เกาะห้า ซึ่งเดิมที่เกาะลันตานั้นทำเพียงทริปเกาะรอกอย่างเดียวเท่านั้น

จนถึงวันนี้ทริปเกาะรอก + เกาะห้า ได้รับความนิยม แต่ก็นั่นละ ถ้ามาเเล้วไม่มีอะไรเลยนอกจากความสวยงามก็ถือว่าเบื่อ สำหรับคนที่เลือกเที่ยวทริปเกาะรอก + เกาะห้า เเม้เวลาแวะที่จุดนี้จะเพียง 1 ชั่วโมงก็ตามที ถ้าเตรียมตัวดีก็ทำได้ทั้งหมด

 

เกาะกูด ที่สุดของทะเลตะวันออก

เกาะกูด เกาะที่อยู่ด้านตะวันออกที่สุดของไทย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของไทย ถ้าใครยังไม่รู้จักเกาะกูด ณ นาทีนี้ และยังไม่มีความคิดที่จะไป ถือว่าพลาดที่สุด เพราะบนเกาะกูดยังเหลือความเป็นธรรมชาติอีกมาก ให้รอคุณมาสัมผัส

บนเกาะมีรีสอร์ทที่พัก หลายระดับราคา ติดหาดก็แพงหน่อย ไม่ติดหาดก็ราคาลดลงมา ถ้าใครขี่มอเตอร์ไซค์ได้สามารถมาเช่าขี่เล่นบนเกาะ เพื่อไปเที่ยวหาดต่างๆได้ เกาะกูดมาไม่ยาก แค่เตรียมตัวเที่ยวให้พร้อมก่อนจะมา

เวลาท่องเที่ยวเกาะกูด
เดือน ตุลาคม – พฤษภาคม : เป็นช่วงฝนน้อย หรือหน้าร้อน เป็นช่วงที่ดีที่สุด (แต่ก็คนเยอะสุด ที่พักแพงสุด)
เดือน มิถุนายน – กันยายน : เป็นฤดูฝน มีคลื่นลม ฝน มากน้อย แล้วแต่ดวง ส่วนมากมี ถ้ามาไม่เจอคือคุณดวงดี

แหล่งท่องเที่ยว บนเกาะกูด

น้ำตกคลองเจ้า หาดคลองเจ้า อ่าวสลัด อ่าวใหญ่

อ่าวสลัด อ่าวคลองยายกี๋   บ้านคลองมาด แหลมหินดำ

อ่าวตะเภา อ่าวน้อย อ่าวง่ามโข่ อ่าวตุ่ม อ่าวบางเบ้า

หาดตะเคียน หาดคลองหิน อ่าวจาก อ่าวพร้าว

อ่าวใหญ่ แหลมเทียน อ่าวจาก (ตะวันออก) อ่าวไทร

อ่าวหินใหญ่ อ่าวกล้วย อ่าวยายเกิด อ่าวคลองแขวน

อ่าวสับปะรด แหลมยายดุ๋ย อ่าวผักแว่น

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังที่ต่างๆ บนเกาะ ได้โดย เช่ามอเตอร์ไซค์ หรือเหมาสองแถวรับจ้าง

แหล่งท่องเที่ยว ใกล้เคียง

• ดำน้ำ ไปเช้า เย็นกลับที่เกาะรัง
• ทริปตกปลา

โดยนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อจองได้กับที่พัก

 

การเดินทางไปเกาะกุด (เผื่อเวลาการเดินทางให้เข้ากับรอบเรือ)

 

เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : ตั้งจุดหมายท่าเรือแหลมศอก ( บางที่พักที่ท่านจองอาจมีที่จอดรถที่ท่าเรือ)
เดินทางด้วยรถทัวร์ : ลง บขส.ตราด เท่านั้น แนะนำ 2 รอบคือ 22.00 น.จากหมอชิต (ถึง บขส.ตี 5) ต่อรถสองแถวไปท่าเรือแหลมศอก (จุดรับตั๋วเรือ) / ขากลับ รถทัวร์ ตราด – กรุงเทพ ออกเวลา 13.30 น.,17.30 (บขส.ตราด)

เดินทางด้วยเครื่องบิน : ลงสนามบิน จ.ตราด ต่อ Taxi ไปท่าเรือแหลมศอก

ทั้งนี้และทั้งนั้น การเดินทางในแต่ละแบบมีการใช้เวลาเดินทางไม่เท่ากัน ควรคำนวณและเผื่อเวลาที่ท่านต้องมาขึ้นเรือด้วย

 

เวลาเรือไปเกาะกูด (ต้องรับตั๋วขึ้นเรือก่อนเรือออก 30 นาที)

ตราด (ท่าเรือแหลมศอก)  – เกาะกูด

ตารางเรือช่วง Green Season เริ่ม 1 มิย – 30 กย. 2562
ขาไป ท่าเรือแหลมศอก – เกาะกูด
เวลาเรือออก	ใช้เวลา	ราคา/ท่าน	เรือ
12:30	105 นาที	350	Princess
12:45	45 นาที	500	Superjet
13:00	75 นาที.	500	Express
13:30	60 นาที	500	Boonsiri
ขากลับ เกาะกูด – ท่าเรือแหลมศอก
09:00	60 นาที.	500	Boonsiri
10:00	75 นาที	500	Express
10:00	105 นาที	350	Princess
11:00	45 นาที	500	Superjet

 

 

ตารางเรือช่วง High Season เริ่ม 1 ตุลาคม 2562
ขาไปท่าเรือแหลมศอก – เกาะกูด
เวลาเรือออก	ใช้เวลา	ราคา/ท่าน	เรือ
10:45	60 นาที	500	Boonsiri
12:30	105 นาที	350	Princess
12:45	45 นาที	500	Superjet
13:00	75 นาที.	500	Express
14:20	60 นาที	500	Boonsiri
ขากลับเกาะกูด – ท่าเรือแหลมศอก
09:00	60 นาที.	500	Boonsiri
10:00	75 นาที	500	Express
10:00	105 นาที	350	Princess
11:00	45 นาที	500	Superjeะ
12:00	60 นาที	500	Boonsiri

 หมายเหตุ

สถานที่ขึ้นเรือฝั่งตราด : ท่าเรือแหลมศอก อ.เมือง จ.ตราด

ราคาเด็ก

• เรือ Princess อายุ 0-8 ปี ราคา 180 บาท
• เรือ Boonsiri อายุ 0-4 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ 5 ปี ราคา 500 บาท/คน
• เรือ Express อายุ 0-4 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ 5 ปี ราคา 500 บาท/คน
• เรือ Superjet อายุ 0-3 ปี ฟรี และ อายุ 4-9 ปี คิด 50% ของราคาผู้ใหญ่ มากกว่า 9 ปี คิดราคาผู้ใหญ่

ค่าจอดรถ

• สำนักงาน Princess ราคา 50 บาท/คัน/วัน
• สำนักงาน Boonsiri ราคา 50 บาท/คัน/คืน
• สำนักงาน Express ราคา 100 บาท/คัน/คืน
• สำนักงาน Superjet ฟรี

เวลาเช็คอิน ขาไปก่อนเรือออก 30 นาที ขากลับรถจะไปรับ 1 ชม.ก่อนเรือทุกบริษัท

ฟรี รถรับส่งจากท่าเรือในเกาะกูดไปรีสอร์ท (ไปกลับ) ทุกบริษัท

บ้านป่าบงเปียง หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ในซอกเขา ระหว่างดอยอินทนนท์กับ อ.เเม่เเจ่ม เชียงใหม่ จุดเด่นของที่นี่ก็คือนาขั้นบันได แต่เราจะแนะนำ นาขั้นบันไดของบ้านตีนผาไปด้วยเลย เพราะเป็นหมู่บ้านใกล้กัน

ช่วงเวลาของการมาเที่ยวนาขั้นบันได

• เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม : เริ่มดำนา
• เดือนสิงหาคม-กันยายน : ข้าวเริ่มโตเต็มนา
• กันยายน-พฤศจิกายน : ข้าวออกรวง เหลือง เป็นสีเหลือง
• ตุลาคม-ธันวาคม : เกี่ยวข้าว
• มกราคม-กุมภาพันธ์ : ถึงไม่มีนาข้าว แต่อากาศ บรรยากาศ ความหนาวยังมีให้มาลอง

ในราคาต่อหัวการเข้าพัก เจ้าของบ้านจะรวมค่าที่พัก อาหารเย็น-อาหารเช้าไว้เเล้ว ไฟฟ้ามีเป็นบางบ้าน(โซล่าเซลล์) ส่วนใหญ่ไม่ได้มีไฟฟ้าให้ ห้องน้ำบางบ้านมีในตัว(ห้องน้ำมาตราฐานของชาวบ้าน) บางบ้านใช้ร่วมกัน สัญญานมือถือมี(ใช้ AIS)  ที่นอน หมอน มุ้ง มีให้(มาตราฐานชาวบ้าน) หากเป็นสายลุยพอได้ ที่นี่เป็นอีกที่ๆควรมาลองใช้ชิวิตอย่างน้อย 1 คืน

เนื่องจากที่พักของแต่ละบ้านมีจำกัด ผู้เดินทางทางควรวางแผนจองมาล่วงหน้า (หากมีที่พักที่ถูกใจ) โทรสอบถามโดยตรงกับทางที่พักได้เลย(คลิ๊ก link ที่พัก)

เที่ยวทะเลพม่า แนะนำการเดินทาง วางแผนเที่ยว

เกาะหัวใจมรกต , เกาะค๊อกเบิร์น(เกาะช้างเผือก) , เกาะนาวโอพี , เกาะฮันนีมูน , หาดเรนเดียร์ ,เกาะบรูเออร์

ข้อมูลนี้อัพเดทสำหรับการเที่ยว 12 ตุลาคม 2562 ถึง 10 พฤษภา 25623

 

 

เที่ยวระนอง แล้วไปเที่ยวต่อทะเลพม่า ทะเลประเทศเพื่อนบ้านที่ยังคงความสดของปะการัง(แต่ปะการังไทย บางที่ดันดีกว่าบางเกาะที่โม้อ่ะนะ) ตอนนี้ระนองเป็นเมืองที่คนอยากมามาก ร้อยละ 90 มาเพราะอยากข้ามไปเที่ยวเกาะทางพม่า ปัญหาช่วงนี้คือ ที่พักไม่พอ ที่นั่งเรือไม่พอ เมื่อทราบปัญหาเเล้วทางแก้คือ จองล่วงหน้า

อีกเรื่องนึงที่วนเวียนถามมาตลอดคือ ไปเกาะไหนดี เกาะไหนสวย ส่วนตัวเเล้วที่ผ่านมา 4 ปี บางเกาะนี่โม้เว่อร์ ราคาสูง แต่ไปแล้วเหมือนเอาเงินไปโยนทิ้งทะเลพม่า  (ดูราคาทัวร์เกาะพม่า คลิ๊กที่นี่)

 

 

ข้อมูลเบื้องต้น (ที่ควรรู้ก่อนไป)

• คนไทยใช้เพียงบัตรประชาชนในการข้ามประเทศเท่านั้น
• เด็กถ้าอายุกิน 7 ปี กรุณาทำบัตรประชาชนมาด้วย ถ้าอายุต่ำกว่านั้นต้องใช้ใบเกิด
• คนไทยถ้าอยากใช้พาสปอร์ต ต้องทำ Evisa เสีย 50 Usd.(ใช้บัตรประชนชนง่ายกว่า)
• วันเดินทางต้องใช้บัตรประชาชนเสียบข้ามแดน ต้องเป็นใบล่าสุดที่ไม่มีการแจ้งหาย และต้องพกบัตรประชาชนทุกคน
• ชาวต่างชาติต้องทำ Evisa มา (ไต้หวัน ไม่สามารถเข้าพม่าได้)
• ชาวต่างชาติ บางกรณีต้องทำ Re entry เข้าไทย (เช็คกับทัวร์ก่อน)
• ไม่สามารถจองใกล้ๆแล้วเดินทางได้ (ข้ามประเทศ ไม่ง่าย)

ช่วงเวลาที่เที่ยวได้

ช่วงเวลาเหมาะสมแก่การเที่ยวทะเล และเกาะฝั่งพม่า จะคล้ายๆทะเลไทยด้านเกาะสิมิลัน และเกาะสุรินทร์ของไทย เวลาที่เปิดเที่ยวคือ 12 ตุลาคม ไปจนถึงประมาณ 10 พฤษภาคม

• ตุลาคม ถึง มกราคม คนเที่ยวน้อย สบาย ไม่ร้อนเกิน มีฝนบ้าง
• กุมภาพันธ์ ถึง เมษายน คนเยอะ ไม่จองก็พลาดได้ อากาศร้อน
• พฤษภาคม คนน้อย เริ่มมีฝน

 

โปรดทราบ (สำคัญ)

• วันเดินทางต้องพกบัตรประชาชน (หากไม่พกมาไม่สามารถข้ามแดนได้)
• สตรีมีครรภ์ ทัวร์ไม่สามารถให้ร่วมทริปได้ (ไกลโรงพยาบาล)
• ผู้ใดติด Blcklist ไม่สามารถข้ามไปได้
• ทัวร์แต่ละเส้นทาง มีวัน และเวลาออกต่างกัน กรุณาสอบถามก่อนจอง
• ทัวร์เป็นระบบสัมปทาน ไม่สามารถเดินทางข้ามเส้นทางดั่งใจได้ (สอบถามก่อนจอง)

ข้อดีของเกาะฝั่งทะเลพม่า

เราๆเห็นนักท่องเที่ยวไปกันเยอะเเยะ ฝั่งโน้นเค้ามีอะไรดี ผมจะรวบรวมมาพอประมาณ

1. ได้ไปต่างประเทศ ในราคาที่ไม่แพง  แต่บางเกาะนี่แพงเกินคุณภาพไปมาก

2. ปะการังดีกว่าที่ไทยเยอะ คือถ้าใครเกินไม่ทันสมัยเกาะสิมิลัน เกาะสุรินทร์ปะการังเฟื่องฟูแบบ 20 ปีก่อน อยากรู้ว่าเป็นยังไง ก็นี่ละฮะ มาทริปเกาะพม่าจะได้เจอปะการังสมบูรณ์ ปลาตัวโตๆแปลกๆเยอะเเยะ ใครว่ายน้ำไม่เป็นไม่ต้องกลัวครับ ทัวร์เค้ามีคนคอยดูเเล

3.เกาะมีความส่วนตัวสูง ลองนึกภาพเกาะของไทยเช่น อ่าวมาหยาที่เกาะพีพี หรือเกาะสี่สิมิลัน ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวยังกะมางานเซลล์อะไรซักอย่าง  แต่มาเกาะทางพม่า เนื่องจากเป็นระบบสัมปทานและมีราคาที่แพงกว่าทริปไทยแล้ว คุณจะได้เจอความส่วนตัวบนชายหาด ที่จะยกกล้องถ่ายรูปได้อย่างสบายใจ หรือจะนอนเกลือกกลิ้งไปบนหาดทรายหลายร้อยเมตร ก็ทำได้ เพราะคนเที่ยวไม่เยอะ ทำอะไรก็สะดวก

โดยรวม เสียค่าทริปแพงกว่าไทย แต่สิ่งที่ได้กลับไปผมก็ยังเชื่อว่า คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เมื่อเราได้ประสบการณ์เที่ยวที่สมบูรณ์กลับไป

 

 

การเดินทางไปจังหวัดระนอง (ดูรูป)

 

 

 

 

จังหวัดระนอง ทุกคนรู้ครับ ว่ามีจังหวัดนี้ แต่ที่หลายคนไม่รู้เลยคือ มีอะไรให้เที่ยว  นอกจากจะข้ามไปเกาะทางพม่า ระนองอยู่ห่างกรุงเทพ ปรมาณ 600 กิโลเมตร

ขับรถมาเอง  จากรุงเทพ 6-7 ชั่วโมง ถ้าคุณอยู่กรุงเทพ แล้วล้อหมุนก่อน 6 โมงเช้า ไม่เกินบ่ายโมงก็ถึงแล้วครับ ใช้เส้นทาง กรุงเทพ-ประจวบ-ชุมพร-ระนอง

 

 

นั่งรถทัวร์ จากกรุงเทพ ขึ้นที่สายใต้ใหม่ รอบ 2 หรือ 3 ทุ่ม ก็สามารถมาดำน้ำเช้าวันถัดไปทัน หรือจะขากลับ ก็สามารถดำน้ำจากพม่าแล้ว กลับรถทัวร์ก็ทันเช่นกัน

มีบริษัทที่ให้บริการดังนี้

สมบัติทัวร์ โทร 02 030 4999

เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางไปจังหวัดระนอง เบอร์โทรศัพท์บริษัทขนส่ง

บริษัทขนส่งจำกัด 999,99 (สถานีขนส่งสายใต้ใหม่)
02-422-4400-1, 02-984-6122 จองตั๋ว 02-422-4444, 02-262-3456

บริษัทนิวมิตรทัวร์ กทม 02-894-6115

บริษัทโชคอนันต์ทัวร์ กทม 02-8946300-2

บริษัทสมบัติทัวร์ สายใต้ 02-8946050-1 ,02-894600

บริษัทบัสเอ็กซ์เพลสจำกัด สายใต้ใหม่ 02-894-6101-3

สาย 63 กรุงเทพฯ-คุระบุรี-ภูเก็ต ม.2 ,ม.4ค (รถปรับอากาศพิเศษ45 ที่นั่ง)

 

 เครื่องบิน  จากกรุงเทพ (ดอนเมือง) ด้วยนกแอร์ และแอร์เอเชีย

นกแอร์

กรณีบินจาก กทม.มาลงระนอง 7.10 น.นั้น สามารถไปออกเกาะได้เลยครับ
กรณีจะบินกลับจากระนองรอบ 19.00 น.นั้น เสี่ยงเกินไปโอกาสไปถึงสนามบินช้า มีมาก เพราะการเดินทางทะเล อาจล่าช้า ทำให้ไปสนามบินช้า ไม่แนะนำไฟลท์นี้ แต่ใครกลับจากทัวร์แล้วกลับรถทัวร์นี่ ยังไงก็ทันครับ

แอร์เอเชีย

เวลาบินจะเป็นช่วงกลางวัน เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากตื่นบินเช้า หรือใครที่บินมาจากภาคอื่น แล้วมาต่อเครื่องที่กรุงเทพ มาระนองอีกทีนึง ในบางช่วงเวลาเห็นมีบิน 2 เวลาด้วยครับ แต่ควรเช็คตารางบินให้ดี (ล่าสุดเห็นบางท่าบอกมีไฟล์ทลง 6.10 น. กรุณาเช็คตารางบินอีกครั้ง)

 

สรุปง่ายๆสำหรับการบิน ถ้าบินลงก่อน 7.30 น. คุณสามารถไปเที่ยวเกาะที่พม่าต่อได้เลย  ขากลับถ้าจะบินกลับ หากมีไฟลท์หลัง 19.30 น.คุณสามารถบินกลับได้ (แต่ตอนนี้ยังไม่มี) ไฟลท์ที่มีคือ 19.00 น. เสี่ยงตกเครื่องสูงเพราะเรือจะเทียบท่า 17.00-18.00 น.(เวลาไม่แน่นอน เพราะสภาพอากาศ และ ต.ม)

 

การเลือกที่พัก ที่เหมาะสมสำหรับการไปออกทริป

ที่พักนั้น ผมขอแนะนำให้พักในเมืองระนองครับ สะดวกสุด ที่พักไม่ถึงพัน เยอะมาก แบบที่ดีสุดก็แค่ 2 พันบาท แถมร้านอาหารของระนอง ราคาน่าคบหามาก ผมว่าใครขับรถมา หรือเช่ารถขับ จะได้เปรียบมากๆในการกิน พัก เที่ยว ของจังหวัดนี้ครับ  หรือไปน่าโปรโมชั่นดูครับ ปกติผมจะจัดคู่กับที่พัก ที่เลือกมาไว้ให้จองครับ จริงๆแล้วนักท่องเที่ยวควรจะถามทางทัวร์ก่อนจองที่พักครับว่าสะดวกต่อการหาของกิน หรือทำอย่างอื่นมั้ย ผมเคยเจอลูกค้าบางเคสเข้าไปนอนที่สวยๆ แต่ไม่มีอะไรกิน แล้วออกไปไหนก็ลำบากครับ ยังไงให้ถามก่อนจองดีกว่า

 

ทริปข้ามไปเที่ยวทะเล เกาะของพม่า มีทริปอะไรบ้าง

 

เที่ยวเกาะฝั่งพม่า ข้ามจากระนอง

อัพเดทล่าสุด มิถุนา 2561

การเดินทางเที่ยวของพม่า เป็นระบบสัมปทานครับ เส้นทางใคร เส้นทางมัน แม้จะขึ้นที่ท่าเรือเดียวกัน แต่จะไม่สามารถไปเส้นทางนึง และข้ามไปเส้นทางนึงได้ (ต้องมาเริ่มที่ท่าเรือใหม่ ในแต่ละวัน) **การข้ามไปเที่ยว ใช้แค่บัตรประชาชน ส่วนเด็กใช้ใบเกิด เท่านั้นครับ (เรื่องข้ามแดน ทัวร์จัดการให้)

1. สีแดง            เส้นทาง เกาะฮันนีมูน มีเฉพาะทริปไปเช้า เย็นกลับ
2. สีเหลือง        เส้นทาง เกาะค๊อกเบิร์น + เกาะมุก มีเฉพาะทริปไปเช้า เย็นกลับ ในราคาไม่ถึง 3 พัน
3. สีส้ม (บน)      เส้นทาง เกาะค๊อกเบิร์น มีเฉพาะทริปไปเช้า เย็นกลับ
4. สีน้ำเงิน         เส้นทาง หาดเรนเดียร์ เกาะเเมคคลอยด์ มีเฉพาะทริปไปเช้า เย็นกลับ
5. สีม่วง             เส้นทาง เกาะนาวโอพี มีทั้งไปเช้า กลับเย็น และค้างคืนบนเกาะ
6. สีส้ม (ล่าง)     เส้นทาง เกาะบรูเออร์ มีทั้งไปเช้า เย็นกลับ และค้างคืนบนเกาะ
7. สีเขียว            เส้นทางเกาะหัวใจมรกต มีทั้งไปเช้า เย็นกลับ และกลับมาค้างคืนบนเกาะสน โรงแรมแกรนด์อันดามัน

บางท่านคิดว่าในเส้นทางเดียวจะไปเกาะเดียว ไม่ใช่นะครับ ไปมากกว่า 2 แน่นอน เช็คโปรแกรมได้ คลิ๊กที่นี่

 

ตัวอย่างการจัดทริป

สำหรับการจัดทริป โปรแกรมนั้น ผมจะลองจัดหลายๆแบบ

คนขับรถส่วนตัว ( 600 ก.ม จากกรุงเทพ)
วันแรก

ก่อน 6.00 น. แนะนำออกจากรุงเทพให้ได้ก่อน 6 โมงเช้า (หนีรถติดได้ตลอดทาง)
7.00 น. แวะกินข้าวเช้า แถวเขาย้อย เพชรบุรี ( ร้านข้าวแกงแม่ล้วน เลยแยกปากท่อ เลยปั๊มบางจาก)

จากนั้นก็วิ่งยาวๆ ได้เลยครับ ผ่านเพชรบุรี ประจวบ ชุมพร แยกขวา เข้าระนอง
13.00 น. ประมาณนี้ ก็ถึงเมืองระนองแล้วครับ เข้าที่พักพักผ่อน 2 ชั่วโมง
15.00 น. ไปเที่ยวน้ำตกหงาว ภูเขาหญ้า ( 10 กิโล จากเมือง)
16.00 น. ย้อนมาที่เมือง มาแช่บ่อน้ำร้อน หรือไปไหว้พระ

17.00 หรือ 18.00 น. ไปทานอาหาร ริมทะเล เช่นร้านเคียงเล วิวดี อาหารอร่อย
19.00 น. กลับที่พักผ่อน

วันที่สอง (เลือกออกทริป เกาะบูเออร์)

7.00 น. ออกไปหาอาหารเช้ากินในเมือง ร้านโรตีบังกี หรือร้านอื่นๆ
8.00 น. เดินทางไปท่าเรือ เข้าโปรแกรม
17.00 น. เดินทางกลับมาถึงไทย

วันที่สาม
ตื่นสายๆ ไปหาของเด็ดๆเมืองระนอง ไปแช่น้ำแร่ ไปทานอาหารทะเล บ่ายโมงแล้วขับรถกลับกรุงเทพ  ท่านก็จะถึงไม่น่าจะเกิน เที่ยงคืน อาบน้ำ พักผ่อน ไปทำงานวันถัดไปได้

 

นั่งเครื่องบินมา

เนื่องจากสายการบิน มีสายการบินเดียว คือนกแอร์ และไฟล์ท มีแค่เช้า และเย็น
หากบินมา แล้วต้องออกเกาะข้ามไปพม่า หรือ กลับจากเกาะพม่า แล้วจะบินกลับ ผมไม่แนะนำครับ
โอกาสไม่ทันสูงมากกกกกกก  เลิกคิดแผนนี้ครับ

แต่หากบินมาลงระนอง เช้า 7.30 น.แล้ว (ลงกว่าจะออกมาจริง 8.00 น. นี่ไม่ดีเลย์นะ) สามารถ
ไปทริปเกาะฝั่งระนองได้ (เกาะกำ เกาะญี่ปุ่น เกาะค้างคาว) แบบนี้สามารถเข้าทริปได้ครับ
เช่น

วันแรก (เที่ยวเกาะบูเออร์ฝั่งพม่า)
6.00 น.+   บินนกแอร์จาก ดอนเมือง สู่ระนอง
7.40 น.     รับกระเป๋า รอรถของทัวร์มารับที่สนามบิน
8.20 น.     รถทางทัวร์ แวะรับที่สนามบิน เดินทางถึงท่าเรือ seastar ระนอง ออกทริปเกาะบูเออร์
17.00 น.   เดินทางกลับถึงท่าเรือ รถของทัวร์ส่งที่พัก
19.00 น.   หาของกินในเมือง หรือที่พัก (ปรึกษาก่อนจอง จะได้ง่าย) หรือจะเรียกรถรับจ้าง
ไปกินมื้อเย็นที่ร้านคุ้นลิ้น ตรงบ่อน้ำร้อน (ถือโอกาส เอาเสื้อผ้ามาแช่น้ำด้วยเลย)

21.00 น.   กลับที่พัก พักผ่อน

วันที่สอง (เลือกออกทริป เกาะพม่า หัวใจมรกต)

7.30 น.      รถจากทัวร์ เริ่มรับนักท่องเที่ยวตามลูกค้าต่างๆ
8.30 น.      ทานอาหารเช้าที่ท่าเรือ ผ่าน ต.ม  เข้าโปรแกรม

20.00 น. เดินทางกลับมาถึงไทย (อาหารกลางวัน เย็น ทริปหัวใจมีให้) กลับที่พัก
วันที่สาม
หากรีบร้อน บินกลับ ไฟล์ท 7.30 น. ระนอง-ดอนเมือง ได้ครับ
แต่หากไม่รีบร้อน บินไฟล์ท 18.30 น. จะทำให้วันนี้ เราได้ตื่นสายๆ
ใช้บริการทัวร์ ให้พาเที่ยวเมืองระนอง จุดสำคัญต่างๆ โดยให้เริ่มตั้งแต่
11.00-17.00 น. โดยการรับเราแล้ว ไปไห้วพระ ซื้อของฝาก แช่น้ำร้อน

ไปน้ำตกหงาว ภูเขาหญ้า แล้วตรงไปที่สนามบิน ถึงซัก 17.00 น.
แบบนี้ก็ได้ครับ ครบ จบๆดี

นั่งรถทัวร์มา

 

ลองใช้เวลาเที่ยว แค่ 2 วัน 1 คืน เลือกทริปเด็ด
วันแรก (เที่ยวเกาะพม่า)

7.00 น.     รถตู้รับท่านจาก บขส.มุ่งสู่ท่าเรือ (มุ่งสู่ทริปเกาะบูเออร์)
8.30 น.     ออกเดินทาง จากท่า Seastar ระนอง

17.00 น.   รถตู้ส่งกลับที่พัก เย็นๆไปร้านเด็ดๆในระนอง

วันที่สอง (เลือกออกทริป เกาะหัวใจมรกต)
7.30 น.      รถรับท่าจากที่พัก เพื่อไปท่าแกรนอันดามัน

เข้าโปรแกรม เกาะกำ มีอาหาร เช้า เที่ยง
19.00 น.    กลับถึงฝั่งไทย รถของทัวร์ส่งที่ท่ารถทัวร์ (ลูกค้าอาบน้ำจาก โรงแรมได้ครับ)

20.00 น.   ขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพ

ขออัพเดท เบื้องต้นก่อนเท่านี้ครับ ใครสงสัย ตรงไหน จะจอง จะวางแผน แอดไลน์ หรือโทรได้ครับ

ติดต่อ สอบถาม จองทัวร์ หรืออื่นๆ

เวลาทำการ : 9.00 – 19.00 น. ทุกวัน

เบอร์โทร : 099 969 1988

(หากโทรแล้ว สายไม่ว่าง หรือไม่รับสาย เดี๋ยวโทรกลับครับ อาจติดสายอื่นๆ)

Line id : @thailandlism.com (ใส่ @ นำหน้าชื่อด้วย) หรือ คลิ๊กที่นี่ เพื่อเพิ่มไลน์

ดอยอ่างขาง ตั้งอยู่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร(ประมาณ ภูทับเบิก) และมียอดดอยสูงถึง 1,928 เมตร เป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512

อัพเดทล่าสุด ( 5 ก.ค. 62 )

• เส้นทางจาก มาจากฝางหรืออำเภอไชยปราการ  ที่ขึ้นดอยอ่างขาง ตอนนี้ซ่อมเสร็จแล้ว ใช้ได้ตามปกติ
• ที่พัก รีสอร์ทด้านบนดอยอ่างขาง งดให้บริการทุกที่
• มีเต๊นท์ ที่ม่อนสนเท่านั้น ที่สามารถพักค้างคืนได้

 

 

การเดินทางมาดอยอ่างขาง

• รถยนต์ส่วนตัว ถ้ามาจากเชียงใหม่ ต้องการทางไม่ชัน ขับเรื่อยๆ แนะนำวิ่ง เชียงใหม่-เชียงดาว-บ้านอรุโณทัย-ดอยอ่างขาง ( 107-3002-1178-1340 )
• หรือมาทางที่ชันแต่ไวกว่า วิ่ง เชียงใหม่-เชียงดาว-ฝาง(เลี้ยวซ้ายขึ้นดอยอ่างขาง) 107-1249
• เนื่องจากทางเป็นภูเขา ผู้คนสัญจรน้อย กรุณเช็คสภาพรถ เบรค ให้ดีก่อนเดินทาง
• รถโดยสาร จากกรุงเทพ สาย กรุงเทพ-ท่าตอน  หรือ เชียงใหม่ – ท่าตอน(สถานีขนส่งอาเขต เชียงใหม่) ทั้ง 2 แบบ ขอลงที่หน้าวัดหาดสำราญ โดยต้องเหมารถขึ้นไปส่ง หรือให้พาเที่ยวตามตกลงราคากัน (ควรติดต่อก่อนไปถึง)

ดอยอินทนนท์ ภูเขาที่สูงที่สุดของไทย เที่ยวได้ตลอดปี แม้จะมาเที่ยวในหน้าร้อน แต่อากาศข้างบนก็ยังเย็นสบาย ที่เที่ยวของแต่ละฤดู หรือช่วงเวลาก็มีความแตกต่างกัน หลายๆคนจึงมาเที่ยวที่ดอยอินทนนท์นี้หลายรอบแล้ว

ดอยอินทนน์ มีความสูงจากฐานราก 1,850 เมตร แต่ถ้านับจากระดับน้ำทะเลจะสูงถึง 2,565 เมตร  ดอยอินทนนท์ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เดิมมีชื่อว่า “ดอยหลวง” หรือ “ดอยหลวงอ่างกา” ชื่อของ ดอยอินทนนท์ เป็นชื่อของกษัตริย์พระนามว่าพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ทรงเป็นผู้ที่ห่วงใยในป่าทางภาคเหนือและพยายามรักษาไว้ ภายหลังเสด็จพิราลัย พระอัฐิส่วนหนึ่งได้เชิญไปประดิษฐาน ณ พระสถูปบนยอดดอยหลวง และเปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นเกียรติ

เที่ยวเกาะช่วงไหนให้เจอคนน้อยๆ

เหมาะสำหรับคนที่เลือกเวลาวางแผนได้ แต่ถ้าหากใครเลือกช่วงเวลาเที่ยวได้ หรือวางแผนล่วงหน้าได้ ก็จัดตามช่วงเวลาที่แนะนำได้ ในส่วนนี้ขอแนะนำทะเลทางอันดามันเป็นหลัก เพราะเป็นด้านที่มีทัวร์เกาะหลากหลาย และส่วนมากคือชาวต่างชาติก็เยอะพอตัวอยู่เเล้ว

 เราลองมาดูรูป สองช่วงเวลาก็แล้วกัน

 

8 อันดับเกาะ ที่น่าไป ตุลา 60 – พฤษภา 61

        หลังจากหมดฝนช่วงเดือนตุลาคม ของทุกปีแล้ว ทางภาคใต้ฝั่งอันดามันก็จะเริ่มเข้าหน้าร้อน (ใต้ไม่มีหน้าหนาว) ซึ่งเกาะต่างๆที่ทางอุทยานปิด ก็จะเริ่มเปิดตั้งแต่ 15 ตุลาเป็นต้นไป จนถึง 15 พฤษภา เพราะฉนั้นหากคุณชอบทะเล อยากไปเติมพลังชีวิตที่ทะเลแล้วละก็ มาดูซิว่า 8 อันดับ เกาะฝั่งอันดามันที่น่าไปมอะไรกันบ้าง
        โดยทั้ง 8 อันดับเกาะน่าไป หากท่านสนใจสามารถสอบถาม แนะนำการเดินทาง หรือจองราคาพิเศษ ผ่านไลน์ ไอดี @Thailandlism.com (มี@นำหน้า) จองทริปผ่านเราเตรียมรับสิทธ์พิเศษกว่าใครๆ




8.เกาะกำตก จ.ระนอง
    เกาะเล็กๆ ที่อยู่ในจังหวัดระนอง จังหวัดที่เริ่มมีคนสนใจจะไปเยือนมากขึ้น นอกจากมาระนองแล้วข้ามไปเที่ยวเกาะทางพม่าเเล้ว เกาะกำตก หรือคนส่วนมากเรียกเกาะกำ ก็ยังเป็นจุดหมายที่น่าลองมาเยือน เกาะกำอยู่ในความดูเเลของอุทยานแหลมสน จะมาเที่ยวได้ช่วง 1 พฤจิกา (จริงๆแล้วเปิด ตั้งแต่ 15 ตุลา แต่คลื่นลมยังแรง) ทริปที่มาเกาะนี้จะเป็นทริปไปกลับ นักเท่องเที่ยวสามารถเหมาเรือหางยาวจากท่าเรือบางเบน หรือซื้อเดย์ทริปจากทัวร์ซึ่งจะเตรียม อาหาร น้ำดื่ม พร้อมบริการสำหรับนักท่องเที่ยว
    จุดเด่นของทริปคือ ความสงบเงียบบนเกาะกำ และวิวแนวต้นสนบนเกาะ จุดถ่ายรูปบนเกาะมีมากมาย หากลงเล่นน้ำก็มีชายหาดทั้ง 3 ด้าน รวมถึงสันทรายคล้ายทะเลแหวก ที่นักท่องเที่ยวสามารถมานั่งรับลมเย็นๆได้เช่นกัน

ช่วงเวลาเปิด : 15 ตุลาคม ถึง 15 พฤษภาคม
ค่าใช้จ่าย      : ทริปทัวร์ ประมาณคนละ 2,000 บาท

 

7.เกาะราชาน้อย จ.ภูเก็ต

เกาะราชาน้อย เอ๊ะ เอ๊ะ ยังไง บางคนเคนได้ยินแต่เกาะราชา หรือเกาะรายา จริงๆแล้วจะเรียกเกาะราชาน้อย เกาะรายาน้อยก็ได้ ไม่ถือว่าผิด แต่เกาะราชานั้น มี 2 เกาะครับ คือที่เรารู้จักทั่วไปคือเกาะราชาใหญ่ ที่มีรีสอรท์ให้ค้างได้ และสามารถเดินทางได้ทั้งปี (แต่ช่วงที่ดีสุดก็คือ ตุลา-พฤษภา นี่แหละ) เกาะราชาน้อย จะไกลออกไปมากกว่าเกาะราชาใหญ่ครับ ทัวร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยพามาที่นี่ เนื่องจากมีร่องน้ำที่เป็นคลื่น แต่ทัวร์ที่มาได้ส่วนมากจะใช้เรือสปีดโบ้ท คาตามารัน ที่มี 2 ท้อง ซึ่งเวลาเจอคลื่นเนี่ย เรือจะไปแบบนิ่มๆไม่น่ากลัว

จุดเด่นของเกาะราชาน้อยนี้ มีทรายหาดที่ขาวสะอาด และน้ำใสแบบในรูปประหนึ่งว่าอยู่เกาะสิมิลันขนาดนั้นเลย เนื่องจากเกาะราชาน้อยมายาก เมื่อเรามาถึงเกาะเเล้วอย่าแปลดใจที่จะเจอนักท่องเที่ยวไม่กี่คนที่นี่ นอกจากนี้แล้ว seastar ยังได้ทำเส้นทาง เกาะราชาน้อย-เกาะไม้ท่อน (ดำน้ำ ดูปลาโลมา)-เกาะเฮ (บานาน่าบีช) ซึ่งเป็นเส้นทางใหม่ทางภูเก็ต โดยนักท่องเที่ยวสามารถจองทริปราคาพิเศษผ่านเรา Thailandlism.com ได้เช่นกัน

ช่วงเวลาเปิด : เปิดทั้งปี  แต่ช่วงที่ดีสุดคือ15 ตุลาคม ถึง 30 พฤษภาคม
ค่าใช้จ่าย      : ทริปทัวร์ ประมาณคนละ 2,200 บาท

 

 

6.เกาะราชาใหญ่ จ.ภูเก็ต

เกาะราชาใหญ่ เกาะที่อยู่ใกล้ภูเก็ต เหมือนสวรรค์น้อยๆ ที่เดินทางมาง่ายๆ คุณสามารถเลือกค้างคืน หรือจะเลือกทริปไปกลับก็ได้ ด้วยเวลาเดินทางด้วย สปีดโบ้ทราวๆ 30 นาที และราคาอยู่ระดับ พันบาท จึงทำให้บางวันผู้คนอาจแน่นไปบ้างบนเกาะนี้ แต่หากเราลงทุนนอนค้างคืนละก็ เมื่อทริปแบบไปกลับ ยกพวกขึ้นเรือกลับช่วงบ่าย บนเกาะก็จะมีความส่วนตัวขึ้นมาทันที

จุดเด่นของเกาะราชาใหญ่ นอกจากทรายละเอียด และเดินทางได้ทั้งปีเเล้ว ยังสามารถมาค้างได้ โดยราคาที่พักก็มีตั้งแต่หลักร้อยในหน้ามรสุม ยันถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว แน่นอน หากคุณมีงบไม่เยอะ แต่อยากลองดูว่า คำว่าเกาะสวยๆไม่ไกลเป็นอย่างไร ขอให้ลองมาดูที่นี่ เกาะราชาใหญ่

ช่วงเวลาเปิด  : เปิดทั้งปี แต่ช่วงที่น่ามาที่สุดคือ  15 ตุลาคม ถึง 15 พฤษภาคม
ค่าใช้จ่าย      : ทริปทัวร์ ไปกลับ ประมาณคนละ 1,000 บาท

 

5.หมู่เกาะห้า จ.กระบี่

หมู่เกาะเล็กๆ ที่สร้างความประหลาดใจให้นักท่องเที่ยวได้แปลกใจเมื่อได้มาเยือน  หมู่เกาะห้า เป็นหมู่เกาะห้าเกาะที่โผล่ขึ้นมากลางทะเล โดยที่เกาะตรงกลางมีชายหาด ซึ่งเวลาน้ำลง เราสามารถขึ้นไปได้ ความจริงแล้วหมู่เกาะห้านี้ คนที่ดำน้ำลึกจะรู้จักมาก่อน เพราะเป็นจุดดำน้ำลึกที่ทัวร์จาก กระบี่ ภูเก็ตและเกาะลันตาแวะมา โดยมีแนวปะการังน้ำลึก อยู่รอบบริเวณหมู่เกาะ และมีโพรงถ้ำใต้เกาะ ส่วนหากมาดำน้ำตื้นที่หมู่เกาะห้าก็มีทั้งปลา และปะการังให้ดูเช่นกัน ด้วยความใสของน้ำ เราสามารถมองเห็นแนวปะการังจากบนเรือสปีดโบ้ทได้เลย

จุดเด่นของเกาะห้า นอกจากความใสของน้ำ ความสมบูรณ์ของปะการังแล้ว การมาเกาะห้าที่ใกล้สุดนี้ คือสามารถมาทางเกาะลันตา หรือจากกระบี่ หรือจากภูเก็ต ในทริป เกาะรอกเกาะห้าได้  เช็คกับทัวร์ก่อนจองว่าไปเกาะห้าหรือไม่

ช่วงเวลาเปิด : 15 ตุลาคม ถึง 15 พฤษภาคม
ค่าใช้จ่าย      : ทริปทัวร์  ไปกลับ ประมาณคนละ 1,500 – 3,000 บาท(แล้วแต่ว่ามาจาก เกาะลันตา กระบี่ หรือภูเก็ต)
+  ไปอ่านรีวิว เที่ยวเกาะรอก เกาะห้า เพิ่มเติมที่นี่ คลิ๊ก 

+  อ่านแนะนำการไปเกาะรอก เกาะห้า

+  อ่านแนะนำการไป เกาะลันตา ต่อไปเกาะรอก

 

4.เกาะรอก จ.กระบี่

เกาะรอก เกาะที่หลายคนด้วยซ้ำที่รู้จักแต่ไม่รู้ว่าดียังไง  ผมจะบอกให้ว่า เกาะสวยๆที่สามารถไปกลับ และค้างคืนบนเกาะได้ โดยที่ใช้งบไม่แพง นั่งเรือไม่นาน ปะการังใต้น้ำสวย แล้วถ้าคุณไดค้างนะ โอ้โห สวรรค์ชัดๆดังรูป เมื่อคนกลับแล้ว นักท่องเที่ยวที่ค้างคืน ก็จะได้เจอสวรรค์แบบเกาะส่วนตัวเช่นรูป จริงอยู่ที่เกาะรอกอยู่เขต จ.กระบี่ และมาได้หลายทาง แต่ทางที่ใกล้ นั่งเรือไวสุดคือเกาะลันตา โดยจากเกาะลันตาจะมีทั้งทริป เกาะรอก+เกาะห้า หรือจะมาแต่เกาะรอกล้วนๆ ก็ได้  แต่หากมาจากกระบี่ และภูเก็ต ก็จะเป็นทริปเกาะรอก+เกาะห้า โดยอัตโนมัติ (เพราะต้องผ่านเกาะห้าอยู่แล้ว)
จุดเด่นของเกาะรอก ถ้าจะให้ดีคือการค้างคืน เสพความส่วนตัวได้เต็มที่ ธรรมชาติบนเกาะยังดี แถมปูเสฉวนอีกเป็นพันตัวจะออกมา เมื่อนักท่องเที่ยวแบบไปกลับ กลับขึ้นเรือหมดแล้ว แม้ทริปไปกลับจะถูกกว่าก็จริง แต่อาจจะทำให้ไม่เต็มอิ่มกับความสวยงามของที่นี่ครับ

ช่วงเวลาเปิด : 15 ตุลาคม ถึง 15 พฤษภาคม
ค่าใช้จ่าย      : ทริปทัวร์  ไปกลับ ประมาณคนละ 1,500 – 6,000 บาท(แล้วแต่ว่ามาจาก เกาะลันตา กระบี่ หรือภูเก็ต  ไปกลับ หรือค้างคืน)
+  ไปอ่านรีวิว เที่ยวเกาะรอก เกาะห้า เพิ่มเติมที่นี่ คลิ๊ก 

+  อ่านแนะนำการไปเกาะรอก เกาะห้า

+  อ่านแนะนำการไป เกาะลันตา ต่อไปเกาะรอก

 

3.เกาะสุรินทร์

หากคุณชอบดำน้ำตื้น หรือคุณกลัวที่จะดำน้ำตื้น ที่นี่เหมาะที่สุดแล้วในไทย เกาะสุรินทร์  โดยเกาะสุรินทร์ตั้งอยู่เขตจังหวัดพังงา อยู่ในความดูเเลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เปิด 15 ตุลา ถึง 15 พฤษภา เท่านั้น โดยที่จุดดำน้ำตื้นของหมู่เกาะสุรินทร์มีเยอะมาก มาอยู่ 3 วัน ก็ยังดำไม่หมดแน่นอน คนส่วนมากเลือกมาทริปแบบไปกลับ แต่ผมว่าถ้าอยากเห็นเกาะสุรินทร์ ที่เป็นเกาะสุรินทร์จริงๆ ทริปค้างคืนคือตัวเลือกที่ดีสุด

จุดเด่นของเกาะสุรินทร์ ไม่ใช่ดีเพียงแต่ปะการังน้ำตื้นที่มีให้ดำดูมากมาย ที่เกาะสุรินทร์ยังมีทั้ง ฝูงปลาน้อยใหญ่ ปลาฉลาม เต่า และสัตว์ทะเลอีกมากมายให้เราได้เจอ จริงอยู่ที่เกาะสุรินทร์จะมาได้ทั้งทางคุระบุรี ท่าบ้านน้ำเค็ม ท่าทับละมุ แต่ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ การเดินทางจากท่าบ้านน้ำเค็ม ที่ไม่ต้องนั่งรถโหด ไม่ต้องนั่งเรือนาน แถมมีเวลาอยู่บนเกาะนานกว่าใคร โดย seastar มีบริการทั้งแบบไปกลับ และค้างคืน ให้ลุกค้าใช้บริการ

ช่วงเวลาเปิด : 15 ตุลาคม ถึง 15 พฤษภาคม
ค่าใช้จ่าย      : ทริปทัวร์  ไปกลับ หรือค้างคืน ประมาณคนละ 2,500 – 6,000 บาท
+  ไปอ่านรีวิว เกาะสุรินทร์ไปกลับและค้างคืน เพิ่มเติมที่นี่ คลิ๊ก

+ ไปอ่านรีวิว แนะนำการเดินทางไปเกาะสุรินทร์  เพิ่มเติมที่นี่ คลิ๊ก 

 

2.เกาะสิมิลัน จ.พังงา

หนึ่งปี มีเพียง 7 เดือนเท่านั้น ที่เราสามารถไปชมความสวยของเกาะสิมิลัน เกาะที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาดูด้วยตาตัวเอง  ถ้าเกาะสุรินทร์คือพระเอกด้านการดำน้ำตื้น ที่เกาะสิมิลันนี้คือ พระเอกด้านวิวสวย ด้วยความใสของน้ำ และสีน้ำทะเลสีฟ้าคราม ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนอ้าปากค้าง เมื่อได้เห็นเกาะสิมิลันเมื่อได้มาเยือน

จุดเด่นของเกาะสิมิลันนอกจาก หาดทรายขาว น้ำสวย วิวดีแล้ว ที่เกาะสิมิลันนี้ ยังสามารถมาค้างคืนได้ด้วย โดยมีบ้านพักของอุทยานไว้บริการ มีทั้งเต๊นท์ บ้านพัดลม บ้านแอร์ หรือถ้าเป็นของเอกชน จะเป็นเรือห้องแอร์ โดยเรือแต่ละเจ้าก็มีบริการ ห้องนอนที่ต่างกัน แม้ปะการังน้ำตื้นของเกาะสิมิลัน จะสู้ทางเกาะสุรินทร์ไม่ได้ แต่ปลาในทะเลนั้นมีความหลากหลาย และตัวโตๆทั้งนั้น หากคุณอยากลองมาสัมผัสวิวทะเลระดับโลก ไม่ควรพลาดเกาะสิมิลันเด็ดขาด

ช่วงเวลาเปิด : 15 ตุลาคม ถึง 15 พฤษภาคม
ค่าใช้จ่าย      : ทริปทัวร์  ไปกลับ หรือค้างคืน ประมาณคนละ 2,200 – 6,000 บาท
+  ไปอ่านรีวิว เกาะสิมิลันไปกลับและค้างคืน เพิ่มเติมที่นี่ คลิ๊ก

+ ไปอ่านรีวิว แนะนำการเดินทางไปเกาะสิมิลัน  เพิ่มเติมที่นี่ คลิ๊ก 

 

1.เกาะบูเออร์ Bruer island,Twin Beach อยู่ฝั่งประเทศพม่า ข้ามจาก จ.ระนอง

ใหม่สุด น่าไปสุด คงต้องยกให้กับเกาะบูเออร์ ด้วยความใหม่แบบแกะกล่องของเกาะบูเออร์ เกาะที่มีหาดคู่ และจุดดำน้ำที่สมบูรณ์ของประเทศพม่า รอคอยนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องจ่ายเงินแพง ไม่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกล แค่เพียงจองทริป แล้วข้ามแดนด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียว คุณกจะได้มาเกาะใหม่ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว
เกาะบูเออร์ อยู่ในเขตประเทศพม่า แต่คนไทยสามารถข้ามไปเที่ยวได้จากระนอง โดยมีทริปไปกลับ และค้างคืน โดย Seastar อีกเช่นเคย โดยสามารถเดินทางวันแรกคือ 11/11 เป็นต้นไป (ช่วงแรกจะออก พฤหัส ถึงอาทิตย์) ในทริปจะมีการพาดำน้ำชมความสมบูรณ์ของปะการังฝั่งพม่า ถึง 3 จุด แล้วยังแวะเล่นน้ำ ถ่ายรุป พร้อมบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันบน Twin Beach หรือหาดคู่ของเกาะบูเออร์ ด้วยราคาที่แพงกว่าทริปของฝั่งทะเลไทยเล็กน้อย แต่ไปชมปะการังที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนั้น นี่คือเส้นทางที่จะเป็นที่ต้องการมาเยือนของนักท่องเที่ยวในอนาคต ผมจึงอยากบอกว่า รู้จักแล้วให้รีบไปก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเยอะในภายหน้าครับ
ช่วงเวลาเปิด : 11 พฤจิกา ถึง 15 พฤษภาคม
ค่าใช้จ่าย      : ทริปทัวร์  ไปกลับ หรือค้างคืน ประมาณคนละ 3,500 – 6,000 บาท
+  ไปอ่านรีวิว รู้จักเกาะบูเออร์ เพิ่มเติมที่นี่ คลิ๊ก